สวัสดีปี 2021 แฟนเพจ Futurist ผู้สนใจในศาสตร์แห่งอนาคตศึกษาทุกท่าน จากสถานการณ์ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจส่วนใหญ่ในโลก ต่างต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน เช่นเดียวกับธุรกิจอีเวนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จากความไม่แน่นอน ทั้งการเปลี่ยนแปลงกระแสความต้องการของผู้บริโภค ความก้าวหน้าและข้อจำกัดของเทคโนโลยี การเติบโตของธุรกิจดิจิทัล การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสถานการณ์โรคระบาด Covid-19 การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลอะไรต่อธุรกิจอีเวนต์ แล้วผู้ประกอบการสามารถทำอย่างไรได้บ้างเพื่อเตรียมการรับมือ มาติดตามไปพร้อมกัน
ทุกธุรกิจส่วนใหญ่ในโลกที่ต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนในอนาคตสูง ธุรกิจอีเวนต์เป็นธุรกิจที่ต้องรับมือกับสภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคมปัจจุบันและความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคและตัวผู้ว่าจ้าง ทั้งการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบมากขึ้น การมีขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้นของผู้บริโภคและผู้จัดงานอีเวนต์ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการค้าขายผ่านโลกออนไลน์ที่เป็นตัวเร่งและขยายโลกาภิวัตน์ในทั่วโลก การให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและให้ความสำคัญสุขอนามัยหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด รวมถึงกระแสการใส่ใจต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น
โลกยุคดิจิทัลกับธุรกิจอีเวนต์
ธุรกิจอีเวนต์เป็นธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของผู้เข้าชมงานผ่านรูปแบบที่เน้นการสร้างประสบการณ์หรือความประทับใจที่ดีต่อผู้จัดงาน ผ่านการรับรู้ทั้งทางบรรยากาศ การตกแต่ง เสียง และช่องทางการรับรู้อื่นๆ การเข้ามาของเทคโนโลยีและดิจิทัลส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้เข้าชมงานเปลี่ยนแปลงไป ทั้งความเคยชินกับความสะดวกสบายไม่ชอบการรอนานและความต้องการศึกษารายละเอียดของสินค้าก่อนการตัดสินใจ
การจัดงานอีเวนต์จึงต้องปรับตัวให้มีรูปแบบงานที่หลากหลายและสอดคล้องกับโลกยุคดิจิทัลมากขึ้น เช่น การลงทะเบียนเข้างานแบบออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนแทนการลงทะเบียนด้วยลายมือ การขายบัตรเข้างานออนไลน์และแสดงบัตรผ่านเข้างานออนไลน์ผ่านแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน การสร้างแพลตฟอร์มใหม่ๆ สำหรับการขายสินค้าที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการในราคาโปรโมชั่นเฉพาะช่วงอีเวนต์ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางและไม่สุ่มเสี่ยงกับการติดเชื้อไวรัสในช่วงที่ยังมีการระบาด
การปรับรูปแบบการจัดงานอีเวนต์โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล นอกจากช่วยลดต้นทุนทรัพยากรและลดขั้นตอนที่ซับซ้อนสำหรับผู้จัดงานแล้ว ยังช่วยให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายในยุคดิจิทัลได้มากขึ้นและเพิ่มโอกาสการเข้ามาใช้บริการของกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ
ธุรกิจอีเวนต์ภายใต้ความแน่นอน
การพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอีเวนต์แต่มีความไม่แน่นอนว่าจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้นจะช่วยให้วางแผนการรับมือกับปัจจัยนั้น ๆสามารถทำได้ง่ายขึ้น รอบคอบขึ้น และเอื้อต่อการตัดสินใจได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างของความไม่แน่นอนที่สำคัญของธุรกิจอีเวนต์คือ ความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจ โดยหากเศรษฐกิจมีการปรับตัวขึ้น ผู้บริโภคย่อมยินดีบริโภคสินค้ามากขึ้นส่งผลให้การจัดงานอีเวนท์มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น แต่หากเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง มีความผันผวนในตลาดสูง ผู้บริโภคมักระแวดระวังการใช้จ่าย ทำให้โอกาสที่จะมีการจัดงานอีเวนต์ลดลงตามไปด้วย
อีกหนึ่งตัวอย่างของความไม่แน่นอนที่สำคัญกับธุรกิจอีเวนต์คือ นโยบายและกฎหมายของภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดงานอีเวนต์ เช่น การเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีนำเข้าหรือส่งออกที่อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง การปรับเปลี่ยนขั้นตอนทางศุลกากรที่สะดวกมากขึ้นหรือยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดต่อที่เข้มงวดมากขึ้นหรือลดลง ย่อมส่งผลต่อความต้องการการจัดงานอีเว้นต์ ความต้องการเข้าชมงานอีเวนต์ ความง่ายและต้นทุนในการจัดงานอีเวนต์
สัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มสังเกตเห็นของธุรกิจอีเวนต์ในอนาคต
การมองหาสัญญาณอ่อน ๆที่อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อธุรกิจอีเวนต์ในอนาคต เป็นกิจกรรมที่มีความจำเป็นและสำคัญเพื่อให้องค์กรสามารถคาดการณ์สัญญาณการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่กำลังก่อตัวขึ้นในอนาคต
ตัวอย่างสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มสังเกตเห็นของธุรกิจอีเวนต์ได้แก่
1. การใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในการจัดงานอีเวนต์ โดยการใช้หุ่นยนต์ตอบคำถามอย่างง่ายต่อผู้เข้าร่วม (Chatbot) หรือ การตรวจผู้เข้างานโดยใช้ระบบการแสกนใบหน้า
2. การเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัดรองซึ่งอาจมีผลให้การจัดงานอีเวนต์ไม่กระจุกอยู่ที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง
3. การเพิ่มขึ้นของการจัดงานอีเวนต์แบบเสมือนจริงที่ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการจัดงานขนาดใหญ่
สัญญาณอ่อนๆ เหล่านี้อาจพัฒนาไปเป็นปรากฏการณ์หงส์ดำที่มีผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจอีเวนต์ในอนาคต เช่นการที่ลูกค้าอาจไม่ต้องการใช้บริการธุรกิจการจัดงานอีเวนท์อีกต่อไป เนื่องจากสามารถจัดการเองได้ผ่านการใช้เทคโนโลยี Virtual Reality โดย ผู้เข้าร่วมเพียงแค่มีสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็บก็สามารถเข้าร่วมงานได้ เสมือนได้ออกไปสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง และเป็นอีเวนต์ที่สามารถจัดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ผู้ว่าจ้างการจัดงานอีเวนทต์เองก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายหลายด้านได้มากขึ้น
จากเนื้อหาข้างต้น จะเห็นได้ว่า การนำเอาหลักการมองอนาคตมาประยุกต์ใช้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทุกธุรกิจไม่เพียงแค่ธุรกิจอีเวนทต์ สามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต สภาพความไม่แน่นอนและความเสี่ยงในอนาคตเพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดและเติบโตในอุตสาหกรรมต่อไปได้
บทความโดย
สิริมา มหาเวทศาสตร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รักษ์พงศ์ วงศาโรจน์